ผู้ที่ต้องการคำปรึกษาสามารถสอบถามเบื้องต้นได้ฟรี ผ่านทางไลน์ โทร หรืออีเมล
ไลน์ @Visallaw
โทรศัพท์ 081-806-2900, 02-266-8217, 02-266-8218
อีเมล visal@visallaw.com
ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับลักษณะของกรณีและความซับซ้อนของปัญหา ลูกค้าสามารถสอบถามเบื้องต้นได้ฟรี หากต้องการปรึกษามากขึ้นหรือให้สำนักงานดำเนินการต่อไป ค่าบริการทางกฎหมายเริ่มต้นที่ 4,000 บาท สามารถสอบถามค่าใช้จ่ายเบื้องต้นได้ที่
ไลน์ @Visallaw
โทรศัพท์ 081-806-2900, 02-266-8217, 02-266-8218
อีเมล visal@visallaw.com
โปรดเตรียมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวให้มากที่สุด (เช่นสรุปเรื่องราวเป็นลายลักษณ์อักษร ทำสำเนาเอกสารที่เกี่ยวข้อง) และส่งต่อข้อมูลทั้งหมดให้เรา เพื่อจะได้ทราบภาพรวมและเรื่องราวทั้งหมดอย่างครบถ้วน เพราะการให้คำปรึกษาจะตรงตามความต้องการและเป็นประโยชน์กับท่านมากที่สุดได้ สำนักงานต้องทราบทุกแง่มุมเพื่อประเมินโอกาสและป้องกันความเสี่ยงให้ครบถ้วน
ทั้งนี้จะต้องมีข้อมูลและเอกสารอะไรบ้างขึ้นอยู่กับกรณี ตัวอย่างเช่น เอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดี เหตุที่ฟ้องร้อง สัญญา หรือเอกสารเกี่ยวกับเรื่องที่ต้องการคำแนะนำ โดยสามารถสอบถามเพิ่มเติมก่อนได้ทาง
ไลน์ @Visallaw
โทรศัพท์ 081-806-2900, 02-266-8217, 02-266-8218
อีเมล visal@visallaw.com
สำนักงานเชี่ยวชาญด้านกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กฎหมายธุรกิจ กฎหมายแรงงาน กฎหมายครอบครัว การทำพินัยกรรม การจัดการมรดก กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา การฟ้องร้องดำเนินคดี และการบังคับดคีหลังคำพิพากษา
ค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบและร่างสัญญาหรือเอกสารทางกฎหมายขึ้นอยู่กับประเภทและความซับซ้อนของสัญญา ภาษาที่ใช้ และขอบเขตที่จะต้องตรวจสอบ โดยแต่ละกรณีจะได้รับการประเมินก่อนดำเนินการ โดยเริ่มต้นที่หน้าละ 500 บาท
สำนักงานมีบริการให้คำปรึกษาผ่านทางออนไลน์ เช่น ไลน์ อีเมล ซูม Microsoft Team และช่องทางอื่น ๆ ตาม ความสะดวกของลูกค้า
ระยะเวลาการพิจารณาคดีแรงงานขึ้นอยู่กับลักษณะของคดีและภาระงานของศาล แม้ว่านโยบายของศาลแรงงานจะพยายามให้กระบวนการพิจารณาคดีสั้นที่สุดเพื่อประโยชน์ของลูกความ แต่คดีแรงงานทั่วไปอาจใช้เวลาอย่างน้อยหกเดือนถึงหนึ่งปี
เรามีทีมทนายความที่เชี่ยวชาญและเป็นมืออาชีพ พร้อมให้คำปรึกษาคุณ
การหย่ามีทั้งการหย่าโดยทั้งสองฝ่ายยินยอม ทำโดยไปจดทะเบียนหย่าที่สำนักงานเขต (หรืออำเภอ) และการหย่าโดยที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ยินยอม ต้องหย่าโดยการฟ้องร้องที่ศาล ซึ่งต้องมีเหตุแห่งการหย่าตามที่กฎหมายกำหนดไว้สิบข้อ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะหย่าด้วยเหตุใด ควรจะพิจารณาเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการสมรสไว้ล่วงหน้า ซึ่งได้แก่ ค่าอุปการะเลี้ยงดูคู่สมรส อำนาจปกครองบุตร ค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร และการแบ่งสินสมรส
ศาลจะพิจารณาสิทธิ์ในการปกครองบุตรตามความเหมาะสมของแต่ละฝ่าย ทั้งด้านการเงิน ความพร้อมของครอบครัว เวลาและศักยภาพในการเลี้ยงดูบุตร โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของบุตรเป็นสำคัญ ซึ่งอาจรวมถึงการจัดแบ่งเวลาการเลี้ยงดูและหน้าที่รับผิดชอบ ทั้งนี้ ผู้ที่ไม่มีอำนาจปกครองบุตร ยังคงมีสิทธิเยี่ยมเยียนและใช้เวลากับบุตรได้ตามที่จะตกลงร่วมกัน
ทรัพย์สินที่หามาได้ระหว่างการสมรสจะถูกสมมุติฐานว่าเป็นสินสมรส ซึ่งคู่สมรสมีสิทธิร่วมกัน ยกเว้นที่กฎหมายระบุไว้ชัดแจ้งว่าเป็นสินส่วนตัวเช่น ทรัพย์มรดกของแต่ละฝ่าย โดยสินสมรสจะต้องแบ่งกันตามกฎหมายหรือตามที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกัน
ในกรณีที่คู่หย่าไม่ยินยอมจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตร ฝ่ายที่มีสิทธิ์ในการดูแลบุตรสามารถยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อเรียกค่าเลี้ยงดูบุตรได้
ค่าเลี้ยงดูบุตรจะขึ้นอยู่กับความสามารถทางการเงินของทั้งสองฝ่ายและความต้องการของบุตร เช่น ค่าใช้จ่ายในการศึกษา สุขภาพ และการดำรงชีวิตประจำวัน
ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงในครอบครัวสามารถฟ้องร้องเพื่อขอคำสั่งคุ้มครองจากศาลและดำเนินการฟ้องร้องคู่สมรสในทางอาญาหรือแพ่งได้
หากมีเหตุผลที่เพียงพอ เช่น คู่สมรสฝ่ายหนึ่งไม่สามารถดูแลบุตรได้อย่างเหมาะสม ฝ่ายที่เสียสิทธิ์ในการดูแลสามารถยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอเปลี่ยนแปลงสิทธิ์ในการดูแลบุตรได้
การรับบุตรบุญธรรมต้องผ่านการตรวจสอบจากสำนักทะเบียน ซึ่งจะเป็นหน่วยงานใดอยู่ที่ภูมิลำเนาที่อยู่ โดยอาจเป็นได้ทั้ง สำนักงานเขต ที่ทำการอำเภอ หรือสถานฑูตไทย โดยต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดโดยกฎหมาย คือ
– ผู้รับบุตรบุญธรรมต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี และต้องมีอายุแก่กว่าผู้จะเป็นบุตรบุญธรรมอย่างน้อย 15 ปี
– ผู้เป็นบุตรบุญธรรมที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี ต้องให้ความยินยอมด้วยตนเอง
– ผู้เป็นบุตรบุญธรรมที่เป็นผู้เยาว์ต้องได้รับความยินยอมจาก บิดา และมารดา หรือผู้ปกครอง
– ผู้จะรับบุตรบุญธรรม หรือผู้จะเป็นบุตรบุญธรรม ถ้ามีคู่สมรสอยู่ต้องได้รับความยินยอมจากคู่สมรสก่อน
– ผู้เยาว์ที่เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลใดอยู่จะเป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่นอีก ในขณะเดียวกันไม่ได้เว้นแต่เป็นบุตรบุญธรรมของคู่สมรสของผู้รับบุตรบุญธรรม
สามารถทำได้หากคู่สมรสมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องอุปการะเลี้ยงดูคู่สมรสอีกฝ่ายตามข้อตกลงหรือคำสั่งศาล
เรามีทีมทนายความที่เชี่ยวชาญและเป็นมืออาชีพ พร้อมให้คำปรึกษาคุณ
การจัดการมรดกเริ่มจากการตรวจสอบว่าผู้เสียชีวิตมีพินัยกรรมหรือไม่ หากมีพินัยกรรมก็จะดำเนินการตามพินัยกรรม แต่หากไม่มีพินัยกรรม จะต้องจัดการตามกฎหมายมรดก
ผู้จัดการมรดกอาจเป็นบุคคลที่ถูกระบุไว้ในพินัยกรรม หรือหากไม่มีพินัยกรรม ศาลจะเป็นผู้แต่งตั้งบุคคลที่เหมาะสมให้เป็นผู้จัดการมรดกตามคำร้องของผู้มีส่วนได้เสีย
หากไม่มีพินัยกรรม ทรัพย์สินจะถูกแบ่งตามกฎหมาย โดยผู้รับมรดกตามกฎหมาย (เช่น คู่สมรส บุตร พ่อแม่) จะได้รับส่วนแบ่งตามที่กฎหมายกำหนด
พินัยกรรมต้องจัดทำตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด เช่น การทำเป็นเอกสารและมีพยานลงนาม, พินัยกรรมแบบลายลักษณ์อักษร, หรือพินัยกรรมปากเปล่าที่ทำในกรณีพิเศษ
เจ้าของพินัยกรรมสามารถแก้ไขพินัยกรรมได้ตลอดชีวิต โดยจะต้องทำเอกสารเพิ่มเติมหรือทำพินัยกรรมใหม่อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ขึ้นอยู่กับประเทศและกฎหมายท้องถิ่น บางประเทศอาจมีการเรียกเก็บภาษีมรดก แต่ในบางกรณีอาจไม่มีภาษี
หากเกิดข้อพิพาทเกี่ยวกับการแบ่งมรดก ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถยื่นคำร้องต่อศาลให้พิจารณาและตัดสินในเรื่องการแบ่งทรัพย์สินตามกฎหมาย
เจ้าของพินัยกรรมสามารถระบุในพินัยกรรมว่าใครจะได้รับหรือไม่ได้รับทรัพย์สิน แต่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดเกี่ยวกับสิทธิ์ของผู้รับมรดกที่บังคับตามกฎหมาย เช่น คู่สมรสหรือบุตร
ผู้ที่ได้รับผลกระทบสามารถฟ้องร้องต่อศาลเพื่อขอให้ผู้จัดการมรดกปฏิบัติตามพินัยกรรมหรือเปลี่ยนตัวผู้จัดการมรดกได้
การโอนทรัพย์สินต้องผ่านกระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งรวมถึงการโอนที่ดิน บ้าน หรือทรัพย์สินอื่น ๆ ตามข้อกำหนดทางกฎหมาย
ได้ ในกรณีที่มีข้อพิพาทเรื่องมรดกหรือการจัดการทรัพย์สินครอบครัว ผู้ที่เกี่ยวข้องสามารถยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อเรียกร้องสิทธิ์ในทรัพย์สินดังกล่าว
เรามีทีมทนายความที่เชี่ยวชาญและเป็นมืออาชีพ พร้อมให้คำปรึกษาคุณ
การจดทะเบียนบริษัทต้องเตรียมเอกสารต่าง ๆ เช่น แบบคำขอจดทะเบียน ชื่อบริษัท วัตถุประสงค์ กรรมการ รายชื่อผู้ถือหุ้น และข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่ของบริษัท จากนั้นยื่นคำขอจดทะเบียนที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
บริษัทจำกัดมีผู้ถือหุ้นหลายคน และมีความรับผิดชอบตามจำนวนเงินที่ลงทุน ส่วนห้างหุ้นส่วนจำกัดมีหุ้นส่วนที่ร่วมรับผิดชอบการดำเนินธุรกิจ โดยหุ้นส่วนบางคนอาจต้องรับผิดชอบหนี้สินมากกว่าเงินลงทุน
สัญญาทางธุรกิจควรมีการร่างและตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อป้องกันความเสี่ยง ควรระบุรายละเอียดเกี่ยวกับสิทธิ์และหน้าที่ของทั้งสองฝ่าย รวมถึงเงื่อนไขในการยกเลิกสัญญาอย่างชัดเจน
การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาสามารถทำได้โดยการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า สิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ หรือสิทธิบัตรการออกแบบ เพื่อป้องกันการละเมิดและการใช้ทรัพย์สินทางปัญญาโดยไม่ได้รับอนุญาต
หากธุรกิจถูกฟ้องร้อง ควรปรึกษาทนายความทันทีเพื่อตรวจสอบข้อกล่าวหาและวางแผนการป้องกัน รวมถึงเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว
บริษัทต้องเสียภาษีหลายประเภท เช่น ภาษีนิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ภาษีหัก ณ ที่จ่าย และภาษีที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงาน
การปรับโครงสร้างธุรกิจอาจรวมถึงการเปลี่ยนแปลงกรรมการ การควบรวมบริษัท การเพิ่มหรือลดทุนจดทะเบียน ซึ่งต้องยื่นขอจดทะเบียนการเปลี่ยนแปลงที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
การควบรวมคือการที่สองบริษัทมารวมกันเป็นหนึ่ง ในขณะที่การซื้อธุรกิจคือการที่บริษัทหนึ่งซื้อหุ้นหรือทรัพย์สินของอีกบริษัทหนึ่งเพื่อควบคุมการดำเนินธุรกิจ
การจ้างงานพนักงานต่างชาติจำเป็นต้องยื่นขอใบอนุญาตทำงานและวีซ่าทำงาน ซึ่งต้องผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติและการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
หากต้องปิดกิจการ ต้องยื่นคำขอยกเลิกทะเบียนธุรกิจและชำระภาษีที่ค้างทั้งหมด พร้อมทั้งจัดการหนี้สินและทรัพย์สินของบริษัทตามกฎหมาย
เรามีทีมทนายความที่เชี่ยวชาญและเป็นมืออาชีพ พร้อมให้คำปรึกษาคุณ
นายจ้างสามารถเลิกจ้างพนักงานได้หากมีเหตุผลเพียงพอ เช่น การละเมิดวินัยอย่างร้ายแรง การไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ หรือการไม่ผ่านการทดลองงาน แต่ต้องเป็นไปตามกฎหมายแรงงานและต้องจ่ายค่าชดเชยในบางกรณี
พนักงานมีสิทธิ์ได้รับค่าชดเชยตามกฎหมาย หากการเลิกจ้างไม่เป็นไปตามข้อยกเว้น เช่น เลิกจ้างเนื่องจากการละเมิดกฎระเบียบร้ายแรง โดยค่าชดเชยจะคำนวณตามอายุงานของพนักงาน
ค่าล่วงเวลาจะคำนวณเป็นจำนวนเงินตามอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมง โดยปกติแล้วจะจ่ายเพิ่มจากค่าจ้างปกติ อัตราค่าล่วงเวลามักจะอยู่ที่ 1.5 เท่าของค่าจ้างปกติ หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับเวลาทำงานและกฎหมายท้องถิ่น
นายจ้างไม่สามารถบังคับให้พนักงานทำงานล่วงเวลาได้ ยกเว้นในกรณีที่พนักงานยินยอม หากเป็นงานเร่งด่วนหรือตามเงื่อนไขในสัญญาจ้าง นายจ้างต้องจ่ายค่าล่วงเวลาตามที่กฎหมายกำหนด
พนักงานมีสิทธิ์ในการลาป่วยและลาพักร้อนตามกฎหมาย โดยลาป่วยต้องได้รับค่าจ้างตามระยะเวลาที่กำหนด ส่วนลาพักร้อน พนักงานจะได้รับวันลาตามจำนวนปีที่ทำงาน
พนักงานสามารถยื่นคำร้องต่อกรมแรงงานหรือศาลแรงงานเพื่อขอความคุ้มครองในกรณีที่คิดว่าเลิกจ้างไม่เป็นธรรม โดยสามารถเรียกร้องค่าชดเชยเพิ่มเติมหรือขอให้กลับเข้าทำงานได้
นายจ้างไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสัญญาจ้างโดยไม่ได้รับความยินยอมจากพนักงาน การเปลี่ยนแปลงใดๆ ต้องได้รับการยินยอมทั้งสองฝ่ายและเป็นไปตามกฎหมายแรงงาน
การเลิกจ้างพนักงานเนื่องจากการตั้งครรภ์ถือว่าผิดกฎหมาย และพนักงานหญิงมีสิทธิ์ได้รับการคุ้มครอง รวมถึงการลาคลอดโดยได้รับค่าจ้างตามที่กฎหมายกำหนด
พนักงานต่างชาติต้องมีใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) และวีซ่าทำงานที่ถูกต้อง นายจ้างต้องดำเนินการขอเอกสารเหล่านี้ตามข้อกำหนดของกฎหมายแรงงานและกฎหมายคนเข้าเมือง
พนักงานสามารถยื่นคำร้องต่อกรมแรงงานหรือแจ้งความกับตำรวจในกรณีที่ถูกทำร้ายหรือล่วงละเมิดในที่ทำงาน โดยนายจ้างมีหน้าที่ปกป้องและรักษาความปลอดภัยของพนักงานในสถานที่ทำงาน
เรามีทีมทนายความที่เชี่ยวชาญและเป็นมืออาชีพ พร้อมให้คำปรึกษาคุณ
บุคคลธรรมดาต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีทุกปีภายในวันที่ 31 มีนาคม สำหรับรายได้ที่ได้รับในปีภาษีก่อนหน้า ซึ่งอาจรวมถึงรายได้จากการทำงาน การลงทุน หรือการขายทรัพย์สิน
บริษัทหรือนิติบุคคลต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีนิติบุคคลปีละครั้งภายใน 150 วันหลังจากสิ้นสุดรอบบัญชี และต้องจ่ายภาษีตามกำไรสุทธิของบริษัทตามอัตราที่กฎหมายกำหนด
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ถูกคำนวณจากการขายสินค้าหรือบริการ โดยจะคำนวณเป็น 7% ของยอดขาย หากธุรกิจมีรายได้เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและยื่นแบบแสดงรายการภาษีทุกเดือน
ภาษีหัก ณ ที่จ่ายเป็นการหักเงินภาษีจากรายได้บางประเภท เช่น ค่าจ้าง ดอกเบี้ย หรือเงินปันผล แล้วนำส่งกรมสรรพากรแทนผู้รับรายได้ โดยนายจ้างหรือนิติบุคคลจะเป็นผู้หักและนำส่งภาษีนี้
หากมีการจ่ายภาษีเกินกว่าที่ต้องจ่าย สามารถยื่นขอคืนภาษีได้ โดยต้องยื่นคำขอคืนภาษีพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น ใบกำกับภาษี หรือเอกสารทางการเงินที่แสดงถึงการจ่ายเงินที่เกิน
การวางแผนภาษีคือการวางแผนการจัดการรายได้ ค่าใช้จ่าย และการลงทุนเพื่อลดภาระภาษีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เช่น การใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี การจัดโครงสร้างธุรกิจอย่างเหมาะสม
การตรวจสอบภาษีเกิดขึ้นเมื่อกรมสรรพากรต้องการตรวจสอบความถูกต้องของการยื่นภาษี โดยเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเอกสาร รายการทางการเงิน และการปฏิบัติตามกฎหมายภาษี หากพบว่ามีการเสียภาษีไม่ถูกต้อง อาจมีการเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมหรือค่าปรับ
หากไม่ได้ยื่นหรือจ่ายภาษีตามกำหนด อาจถูกปรับเงินหรือเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม รวมถึงดอกเบี้ยจากภาษีที่ค้าง หากมีความผิดร้ายแรง อาจมีโทษทางอาญา
การลงทุนในหลักทรัพย์ เช่น หุ้นหรือกองทุนรวม อาจมีการเสียภาษีจากกำไรที่ได้รับ โดยจะมีการหักภาษี ณ ที่จ่ายจากเงินปันผล หรือภาษีกำไรจากการขายหุ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทการลงทุนและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
การบริจาคเงินให้กับองค์กรการกุศลหรือกิจกรรมที่ได้รับการยกเว้นภาษีสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ตามกฎหมาย ทั้งนี้ต้องยื่นเอกสารการบริจาคเพื่อยืนยันการขอลดหย่อน
สำนักงานกฎหมาย วิศาลและเพื่อนทนายความ ประสบการณ์ที่สั่งสมมามากกว่า 50 ปี
ตั้งอยู่ที่ 83, 85 ซ. อนุมานราชธน แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500
เปิดทำการวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08:30-17:30 น.